เลือกแว่นตาเด็กอย่างไรให้เหมาะกับลูกน้อยของคุณ และควรใส่ตอนอายุเท่าไหร่?
แว่นเด็ก เป็นอุปกรณ์ที่ผู้ปกครองควรให้ความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะเมื่อลูกน้อยมีปัญหาด้านสายตา หากไม่ได้รับการดูแล หรือดำเนินการแก้ไขตั้งแต่ระยะแรก อาจส่งผลต่อการเรียนรู้ และพัฒนาการในด้านต่าง ๆ ได้ การสวมใส่แว่นตาที่เหมาะสมจึงเป็นหนึ่งในวิธีการที่ช่วยดูแลสุขภาพสายตา และปรับแก้ให้การมองเห็นของลูกมีความชัดเจนยิ่งขึ้น อีกทั้งยังช่วยป้องกันปัญหาด้านสายตาที่อาจมีความรุนแรงมากยิ่งขึ้นในอนาคต ในวันนี้ Dr.Ouise Eye Clinic จึงจะพามารู้จักความสำคัญของแว่นเด็กกันให้มากขึ้น ทั้งความเข้าใจผิดที่พบบ่อยเกี่ยวกับปัญหาด้านสายตา พร้อมแนะนำเคล็ดลับเลือกแว่นตาสำหรับเด็ก เพื่อให้ผู้ปกครองทุกคนสามารถดูแลสุขภาพสายตาของลูกน้อยได้อย่างเหมาะสม พร้อมส่งเสริมพัฒนาการ และการเรียนรู้ของลูกน้อยได้ในระยะยาว
ทำไมการเลือกแว่นเด็กจึงสำคัญ?
ทำไมการเลือกแว่นตาเด็กจึงสำคัญ? เพราะแว่นเด็กที่ดีจะช่วยรักษา และป้องกันปัญหาสุขภาพสายตา รวมทั้งช่วยส่งเสริมพัฒนาการของลูกได้ในระยะยาว อีกทั้งยังมีประโยชน์ต่อเด็กในด้านอื่น ๆ ดังต่อไปนี้
- ช่วยแก้ไขการมองเห็นที่ผิดปกติ : สำหรับเด็กที่มีปัญหาด้านสายตา ไม่ว่าจะเป็นภาวะสายตาสั้น สายตายาว หรือสายตาเอียง การสวมใส่แว่นตา จะช่วยทำให้มองเห็นสิ่งต่าง ๆ ได้ชัดเจนมากขึ้น ซึ่งเป็นผลดีต่อการเรียนรู้ และสามารถทำกิจกรรมในชีวิตประจำวันได้อย่างราบรื่น
- ป้องกันค่าสายตาแย่ลง : แว่นตาเด็กที่ดี จะช่วยแก้ไขให้การมองเห็นของดวงตาทั้งสองข้างสามารถมองเห็นได้อย่างปกติ และช่วยป้องกันความเสี่ยงที่อาจทำให้ลูกมีปัญหาสายตาที่อาจรุนแรงได้ในอนาคต เช่น ภาวะตาเหล่ หรือภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง เป็นต้น
- ส่งเสริมทักษะในการเรียนรู้ : หากลูกมีการมองเห็นที่ชัดเจน ย่อมส่งผลให้สามารถเรียบรู้สิ่งต่าง ๆ ได้ดียิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นทักษะการอ่าน เขียน หรือการทำกิจกรรมต่าง ๆ ที่ต้องอาศัยการมองเห็นที่ชัดเจน
เด็กจำเป็นต้องวัดสายตาไหม?
การมองเห็นที่ชัดเจนคือหน้าต่างสู่โลกแห่งการเรียนรู้และพัฒนาการของลูกน้อย หลายครั้งที่คุณพ่อคุณแม่อาจมีคำถามในใจว่า "เด็กจำเป็นต้องวัดสายตาไหม?" คำตอบคือ จำเป็นอย่างยิ่ง การตรวจวัดสายตาในเด็กไม่ใช่เรื่องที่ควรมองข้าม เพราะปัญหาสายตาในวัยเด็ก หากไม่ได้รับการตรวจพบและแก้ไขอย่างทันท่วงที อาจส่งผลกระทบต่อการเรียนรู้ พัฒนาการทางร่างกายและจิตใจ รวมถึงคุณภาพชีวิตของลูกในระยะยาวได้
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงก่อนวัยเข้าเรียน (ประมาณอายุ 3-5 ปี) คุณพ่อคุณแม่ควรพาลูกน้อยมาตรวจวัดค่าสายตากับจักษุแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสายตา เพราะในช่วงวัยนี้ เด็กบางคนอาจมีปัญหาสายตาสั้น สายตายาว หรือสายตาเอียงโดยไม่รู้ตัว ซึ่งหากปล่อยไว้อาจทำให้เกิดภาวะตาขี้เกียจ (Amblyopia) ที่รักษาได้ยากหากตรวจพบช้า และอาจเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ลูกเรียนไม่ทันหรือเรียนไม่เก่ง เพราะมองไม่ชัดจนอาจเสียสมาธิ ไม่กล้าถาม ไม่เข้าใจบทเรียน ดังนั้นการตรวจพบและแก้ไขตั้งแต่เนิ่น ๆ จะช่วยให้เด็กมีพัฒนาการที่เหมาะสม ตามวัย และพร้อมเต็มที่เมื่อถึงช่วงวัยเรียนจริง
วัดสายตาที่โรงเรียนอย่างเดียวอาจไม่พอ!
หลายโรงเรียนมักจัดกิจกรรมวัดสายตานักเรียนเพื่อคัดกรองปัญหาสายตาเบื้องต้น ซึ่งเป็นเรื่องดีมาก เพราะช่วยให้คุณครูและผู้ปกครองเห็นปัญหาได้ไวขึ้น แต่รู้ไหมว่า การวัดสายตาในโรงเรียนส่วนใหญ่มักใช้แค่ แผ่นทดสอบสายตา (Visual Acuity Chart หรือ VA chart) เพื่อดูว่านักเรียนสามารถมองเห็นชัดเจนในระดับใด ซึ่งบอกได้คร่าว ๆ เท่านั้นว่าสายตาดีหรืออาจมีปัญหา
แต่ถ้าอยากรู้ให้แน่ชัดเลยว่า ค่าสายตาสั้น ยาว หรือเอียงอยู่ที่เท่าไหร่กันแน่ ต้องตรวจสายตาอย่างละเอียดกับจักษุแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง โดยเฉพาะในเด็กเล็กหรือเด็กประถม เพราะในหลายกรณีอาจจำเป็นต้อง หยอดยาขยายม่านตา เพื่อให้วัดค่าสายตาได้แม่นยำ ไม่ถูกกล้ามเนื้อตากลบอาการไว้ การตรวจสายตาแบบละเอียดจะใช้เครื่องมือที่ทันสมัยและแม่นยำกว่า ไม่เพียงแค่ดูค่าสายตาเท่านั้น แต่ยังสามารถตรวจสุขภาพตาโดยรวม เช่น ตรวจความดันลูกตา ตรวจจอประสาทตา ตรวจภาวะตาขี้เกียจหรือตาเขที่อาจซ่อนอยู่
ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนสำคัญมาก เพราะเด็กวัยเรียนต้องใช้สายตาหนักทั้งในห้องเรียนและกับหน้าจอต่าง ๆ สรุปง่าย ๆ คือ ถ้าอยากให้มั่นใจว่าสายตาลูกไม่มีปัญหาแอบแฝงอยู่ แนะนำให้พาไปตรวจตากับจักษุแพทย์ปีละ 1 ครั้ง
หากกังวลว่าเด็กมีปัญหาการมองเห็น ควรรีบไปพบจักษุแพทย์
เด็กสมัยนี้ใช้สายตาอย่างหนัก ไม่ว่าจะเป็นการอ่านหนังสือ เขียนการบ้าน หรือจ้องหน้าจอสมาร์ทโฟน หากคุณพ่อ คุณแม่ หรือคุณครูสังเกตว่าเด็กมีพฤติกรรมผิดปกติ เช่น ขยับเข้าใกล้หน้าจอมากเกินไป หรือมักบ่นปวดหัว มองไม่ชัด ควรรีบพาไปพบจักษุแพทย์ทันที เพราะการพบจักษุแพทย์จะช่วยให้ตรวจวัดสายตาและสุขภาพตาอย่างละเอียด ยิ่งรู้เร็ว แก้ไขเร็วย่อมดีกว่า
สัญญาณเตือนที่ควรสังเกตว่าลูกน้อยอาจมีปัญหาสายตา ได้แก่
1.ขยี้ตาบ่อย เด็กอาจรู้สึกเคืองตาหรือมองเห็นไม่ชัดจนต้องขยี้ตาเป็นประจำ
2.หยีตาหรือหรี่ตาเวลามอง เพื่อพยายามมองภาพให้ชัดขึ้น
3.ขยับเข้าไปใกล้หน้าจอหรือหนังสือมากเกินไป เพราะมองไกลไม่ชัด
4.เอียงศีรษะหรือปิดตาข้างหนึ่งขณะอ่านหรือดูทีวี อาจเกิดจากสายตาข้างหนึ่งแย่กว่าปกติ
5.ชอบหลบเลี่ยงกิจกรรมที่ต้องใช้สายตาระยะไกล เช่น การเล่นกีฬา
6.บ่นปวดหัวหรือปวดตาเป็นประจำ โดยเฉพาะหลังอ่านหนังสือหรือใช้สายตานาน ๆ
7.มีปัญหาเรื่องการเรียนหรือสมาธิสั้นลง บางครั้งเกิดจากการมองกระดานไม่ชัดจนไม่สามารถจดจ่อได้
การสังเกตพฤติกรรมเล็ก ๆ เหล่านี้สามารถช่วยให้คุณพ่อคุณแม่พาลูกน้อยไปตรวจตาได้ทันท่วงที ป้องกันการเกิดปัญหาสายตารุนแรงในอนาคต
ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับแว่นเด็กที่พบบ่อย
ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับแว่นตาเด็กที่พบบ่อย ผู้ปกครองหลายท่านอาจมีความเข้าใจคลาดเคลื่อนเกี่ยวข้อเท็จจริงของอุปกรณ์แว่นสายตาสำหรับเด็ก ทำให้มีการละเลยความสำคัญ หรือเลือกซื้อแว่นตาที่ไม่เหมาะสมให้กับลูกน้อย โดยความเข้าใจที่พบได้บ่อยมีดังต่อไปนี้
แว่นตาทำให้สายตาเด็กแย่ลงจริงหรือ?
แว่นตาทำให้สายตาเด็กแย่ลง เป็นความเข้าใจผิดอย่างแท้จริง การให้เด็กสวมใส่แว่นตาที่เหมาะสม นอกจากช่วยทำให้มองเห็นภาพได้ชัดเจนมากขึ้น ยังถนอมดวงตาของเด็ก ไม่ต้องใช้สายตาในการเพ่งหรือจดจ้องเพื่อพยายามปรับโฟกัส ซึ่งจะช่วยลดอาการตาล้า ปวดตาได้เป็นอย่างดี
อีกทั้งยังช่วยรักษาสุขภาพสายตาไม่ให้ค่าสายตามีความผิดปกติเพิ่มมากขึ้น ในทางกลับกัน หากเด็กมีปัญหาด้านสายตา แต่ไม่ได้รับการแก้ไข หรือไม่ได้สวมใส่แว่นตาที่เหมาะสม อาจนำไปสู่ปปัญหาสายตาที่รุนแรงมากยิ่งขึ้น
เมื่อลูกบ่นเรื่องสายตา ควรทำอย่างไร?
เมื่อลูกบ่นเรื่องสายตา ทั้งการมองเห็นกระดานหน้าชั้นเรียนไม่ชัดเจน มีอาการปวดหัวหรือเวียนหัวบ่อยครั้ง มักหรี่ตาเพื่อมองดูสิ่งต่าง และเดินชนสิ่งของบ่อย ๆ รวมถึงหากผู้ปกครองสังเกตได้ว่าเด็กมีความผิดปกติบริเวณดวงตา เช่น ขยี้ตาบ่อย ตาแดง น้ำตาไหลมากกว่าปกติ หรือตาแพ้แสง เป็นต้น ควรรีบพาเด็กเข้าพบแพทย์เพื่อทำการวินิจฉัยความผิดปกติที่เกิดขึ้น และเข้ารับการรักษาได้อย่างทันท่วงที
ผลกระทบหากไม่แก้ไขปัญหาสายตาในเด็ก
ผลกระทบหากไม่แก้ไขปัญหาสายตาในเด็ก สามารถแบ่งออกเป็นพัฒนาการ 3 ด้านดังต่อไปนี้
- ด้านร่างกาย : หากปัญหาการมองเห็นไม่ได้รับการแก้ไข อาจส่งผลต่อปัญหาด้านการเคลื่อนไหว และทรงตัวที่ไม่คล่องแคล่ว เช่น การเดินชนสิ่งของหรือหกล้มได้ง่าย เป็นต้น
- ด้านการเรียนรู้ : การมองเห็นที่ไม่ชัดเจน อาจทำให้เด็กมีสมาธิที่สั้นลง หรือไม่สามารถเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ได้อย่างเต็มที่ และนำไปสู่ผลการเรียนที่ต่ำลงในที่สุด
- ด้านอารมณ์ และสังคม : เด็กที่มองเห็นสิ่งต่าง ๆ ไม่ชัดเจน อาจส่งผลต่อความมั่นใจในตนเอง รวมทั้งมีปัญหาการในการเข้าสังคม หรือขาดปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมชั้นเรียน เป็นตั้น
อย่าละเลยหากเด็กพูดว่า "มองไม่เห็น"
ประโยคง่าย ๆ จากเด็กว่า มองไม่เห็น อาจเป็นสัญญาณสำคัญที่บอกว่าลูกน้อยกำลังเจอปัญหาด้านสายตา ซึ่งอาจกระทบต่อการเรียน การเล่น และการพัฒนาทางอารมณ์ ถ้าเด็กบอกแบบนี้ อย่าชะล่าใจ! ควรรีบพาเด็กไปตรวจตากับจักษุแพทย์ เพราะเด็กบางคนอาจมีภาวะสายตาสั้น ยาว หรือเอียง โดยที่ผู้ปกครองมองไม่ออกด้วยตาเปล่า การตรวจอย่างละเอียดจะช่วยให้รู้สาเหตุที่แท้จริงและหาทางแก้ไขได้เร็ว
เคล็ดลับการเลือกแว่นเด็กที่ใช่สำหรับลูกน้อย
เคล็ดลับการเลือกแว่นตาที่ใช่สำหรับลูกน้อย ควรคำนึงจากปัจจัยดังต่อไปนี้
ใช้ค่าสายตาจากจักษุแพทย์เพื่อความแม่นยำ
ใช้ค่าสายตาจากจักษุแพทย์เพื่อความแม่นยำ ก่อนการเลือกซื้อแว่นตา ผู้ปกครองควรพาเด็กเข้าตรวจวัดค่าสายตาโดยละเอียดกับผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้ได้มาซึ่งค่าสายตาที่แม่นยำ เพราะการใช้แว่นตาที่ไม่ตรงกับค่าสายตา อาจทำให้เด็กมีอาการตาล้า ปวดตา และส่งผลกระทบต่อสุขภาพสายตาได้ในระยะยาว
เลือกขนาดและรูปทรงให้พอดีกับใบหน้า
เลือกขนาดและรูปทรงให้พอดีกับใบหน้า การเลือกกรอบแว่น และเลนส์ให้เหมาะสม เป็นหนึ่งในปัจจัยที่สำคัญสำหรับการเลือกแว่นตาให้ลูก อุปกรณ์ที่เหมาะสมควรรองรับเข้าโครงหน้าของเด็ก ไม่หลวมหรือคับมากจนเกินไป อีกทั้งไม่ควรเลือกซื้อแว่นตาที่มีขนาดใหญ่เกินไป เพราะจะทำให้มีน้ำหนักมาก เกิดการกดทับบริเวณจมูก รวมถึงอาจทำให้การใช้งานมีประสิทธิภาพลดลง
วัสดุที่ทนทานและปลอดภัยสำหรับเด็ก
วัสดุที่ทนทานและปลอดภัยสำหรับเด็ก อีกหนึ่งปัจจัยที่ควรคำนึงคือเรื่องความแข็งแรง น้ำหนักเบา วัสดุที่มีความยืดหยุ่นสูง มีคุณสมบัติในการบิดงอได้ เพื่อป้องกันอุปกรณ์แตกหักจากการหกล้มของเด็ก และอาจนำไปสู่การเกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิดได้ในที่สุด
ให้ลูกมีส่วนร่วมในการเลือกดีไซน์ที่ชอบ
ให้ลูกมีส่วนร่วมในการเลือกดีไซน์ที่ชอบ โดยปกติทั่วของเด็ก อาจไม่ชอบการมีสิ่งแปลกปลอมอยู่บนใบหน้า หากให้ลูกได้เลือกรูปแบบที่ตัวเองชอบ จะช่วยทำให้เด็กรู้สึกอยากสวมใส่แว่นสายตาเพิ่มมากขึ้น
บริการและโปรโมชั่นแว่นเด็กจาก Dr.Ouise Eye Clinic
บริการและโปรโมชั่นแว่นตาเด็กจาก Dr.Ouise Eye Clinic ครอบคลุมทั้งการตรวจวัดด้วยเครื่องมือที่ทันสมัย การตัดวัดแว่นกับผู้เชี่ยวชาญมากประสบการณ์ สามารถทดลองเลนส์ได้ก่อนการตัดสินใจซื้อ รวมทั้งมีบริการหลังการขาย รับประกันสินค้าหากเลนส์มีการชำรุดเสียหายจากการผลิต ซึ่งทั้งหมดนี้ให้บริการโดยจักษุแพทย์ และนักทัศนมาตรผู้เชี่ยวชาญของเรา
แว่นตาเด็กหลากหลายดีไซน์และวัสดุ
แว่นตาเด็กหลากหลายดีไซน์และวัสดุ ที่ Dr.Ouise Eye Clinic เรามีรูปแบบให้เลือกหลากหลาย เพื่อตอบโจทย์ทั้งการแก้ไขปัญหาด้านสายตา และไลฟ์สไตล์ของเด็กแต่ละคน รวมทั้งมีคุณภาพที่แข็งแรง ทนทาน ผู้ปกครองสามารถเลือกซื้อแว่นเด็กของเราได้อย่างมั่นใจ
โปรโมชั่นตรวจวัดสายตาและส่วนลดแว่นเด็ก
โปรโมชั่นตรวจวัดสายตา ที่ Dr. Ouise Eye Clinic นั้นจะแบ่งราคาค่าใช้จ่ายตามความแตกต่างกันของประเภทในการตรวจ ซึ่งแบ่งออกเป็นระดับดังนี้
- ระดับ Silver : ตรวจวัดสายตา 10 รายการ ราคา 1,000 บาท
- ระดับ Gold : ตรวจวัดสายตา 11 รายการ ราคา 1,800 บาท
- ระดับ Platinum : ตรวจวัดสายตา 12 รายการ ราคา 2,300 บาท
เพียงเลือกซื้อแว่นเด็กวันนี้ รับส่วนลดแว่นตาเด็ก ได้เลยทันที
*เฉพาะแบรนด์ชั้นนำที่ร่วมรายการ
คำถามที่พบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับแว่นเด็ก
เมื่อไหร่ที่ควรพาลูกไปตรวจวัดสายตา?
เมื่อไหร่ที่ควรพาลูกไปตรวจวัดสายตา? โดยปกติแล้วผู้ปกครองควรพาเด็กเข้ารับการตรวจวัดสายตาเป็นประจำทุกปี รวมถึงการตรวจวัดก่อนเข้าเรียน เพื่อตรวจหาความเสี่ยงความผิดปกติของสายตา และการมองเห็น เช่น ภาวะสายตาสั้น ภาวะสายตายาวโดยกำเนิด ภาวะสายตาเอียง รวมถึงตาภาวะตาขี้เกียจ และโรคทางตาที่อาจเกิดขึ้น เป็นต้น
สายตาสั้นในเด็กเกิดจากอะไร?
สายตาสั้นในเด็ก สามารถเกิดได้จากหลายปัจจัย ทั้งพันธุกรรมที่บุคคลในครอบครัวมีปัญหาด้านสายตา และอาจเกิดขึ้นจากพฤติกรรมการใช้หน้าจอระยะใกล้เป็นเวลานานของเด็ก เป็นต้น
บทความโดย
หมออุ๊ย แพทย์หญิง วชิรา สนธิไชย
จักษุแพทย์เฉพาะทางด้านการแก้ไขปัญหาสายตาและเลนส์โปรเกรสซีฟ

สาขาของเรา
- DR.OUISE EYE CLINIC
ที่ตั้ง ซอยพหลโยธิน 92 ตำบลประชาธิปัตย์ อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี 12130
เปิดบริการทุกวัน 10.00-18.00 น.
- DR.OUISE EYE SPECIALIST
ห้าง Fashion Island ชั้น 2 ห้องเลขที่ 2040B
เลขที่ 587,589,589/7-9 ถนนรามอินทรา แขวงคันนายาว เขตคันนายาว กทม 10230
เปิดบริการทุกวัน 10.00-22.00 น.